วิถีธรรมชาติเพื่อการคลอดธรรมชาติ

มองไปทางไหนก็มีการคลอดหลายแบบไม่ว่าจะเป็นคลอดเอง ผ่าคลอด ใช้เครื่องมือช่วยคลอดล้วนแต่ทำให้หวั่นไหวไม่ใช่เล่นเลยนะคะ

วันนี้ดิฉันจะชวนคุยกันก่อนค่ะว่าถ้าเราอยากคลอดเองจะเป็นไปได้ไหม หลายคนคงบอกว่า “โอ้ยเรื่องเล็กถึงเวลาก็จะเบ่งพรวดเดียว” บ้างก็บอกว่า “โอยไม่ไหวแล้วช่วยหนูหน่อย” ถ้าถามกันตามตัวเลขก็ต้องบอกว่าองค์การอนามัยโลกบอกไว้ว่า 85% ของผู้หญิงท้องสามารถคลอดได้เองแต่พอเรามาดูกันจริงๆ ในหลายประเทศรวมทั้งบ้านเราด้วยแล้ว

ตัวเลขคนคลอดเองได้กลับไม่เป็นอย่างที่ว่ากันในสหรัฐฯการผ่าตัดคลอดอยู่ระหว่าง 28-29% ส่วนในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย กลับอยู่ที่ประมาณ 15%

เราเป็นแม่กลุ่มไหน ถ้าเราไปถามชาวบ้านที่เค้าไม่สนใจอะไรมากก็จะได้รับคำตอบว่าก็ไม่ต้องทำอะไรแค่ระวังอย่าให้หกล้ม กินให้อิ่ม นอนให้หลับถึงเวลาก็จะคลอดได้เอง กลุ่มนี้คือกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิวัฒนาการของเทคโนโลยีจนเสียความมั่นใจในตัวเองก็ไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกหรือต้องกังวลเพราะเห็นเป็นสิ่งปกติ

แต่ถ้าไปดูในอีกกลุ่มจะพบว่ายิ่งแม่มีความรู้ก็จะต้องการตรวจสอบหรือพิสูจน์ข้อมูลที่ได้ว่าอะไรถูกอะไรผิดกันแน่ ดังนั้นกลุ่มนี้จะต้องการการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ การฝึกปฏิบัติเพื่อให้ทำได้จริงและมักต้องการการยืนยันว่าถูกต้องจริง ดังนั้นสิ่งสำคัญต้องค้นหาตัวเองก่อนว่าเป็นกลุ่มไหนนะคะ ถ้าไม่เจ็บก็ไม่คลอด

คุณแม่ควรแสวงหาข้อมูลที่ตัวเองต้องการด้วยการอ่าน อบรม พูดคุยกับเพื่อนที่มีประสบการณ์การคลอดมาแล้ว ประเด็นที่สำคัญน่าจะเป็นความรู้สึกที่เป็นบวกกับการคลอดนะคะ เพราะจริงแล้วหลายคนกลัวเจ็บ แต่ลืมคิดไปว่าถ้าไม่เจ็บครรภ์ก็จะไม่มีการคลอดได้เอง

แต่จะเจ็บมากน้อยขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย และความกลัวก็มักนำมาซึ่งความเจ็บเพราะจะทำให้ขาดสติทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่ดี ยิ่งกลัว ยิ่งเจ็บ ยิ่งต้องใช้เวลานาน ดังนั้นคิดในทางตรงกันข้าม คิดในแง่ดีจะดีกว่าค่ะ การที่สิ่งแวดล้อมที่เอื้อความต้องการของตัวเองหรือหากำลังใจเพื่อเป็นที่พึ่ง แต่โดยปกติแล้วช่วงตั้งครรภ์จะเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดเพราะมีคนมาแวดล้อมดูแลและคอยลุ้น ดังนั้นไม่ต้องกลัวถ้าจะมีคนคู่กายอยู่เคียงข้างยิ่งมากยิ่งดีเพราะกำลังใจดีแรงก็ดีไปด้วยนะคะ

วิถีธรรมชาติเพื่อการคลอดธรรมชาติ

ออกกำลังกาย ควรส่งเสริมให้คุณแม่เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานและการเปลี่ยนแปลงของระบบต่างๆ ในร่างกายขณะตั้งครรภ์และคลอดเพราะร่างกายของคุณแม่จะถูกเตรียมพร้อม โดยฮอร์โมนให้มีความยืดหยุ่นได้มากกว่าปกต เพื่อเป็นการเปิดช่องให้ลูกคลอดได้สะดวก เลือกการออกกำลังกายให้เหมาะกับสภาพร่างกายของคุณแม่

การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณแม่มีความคล่องตัว กินได้ดี นอนหลับได้ง่ายถึงเวลาต้องออกแรงเบ่งจะได้ไม่ติดขัดยังไงล่ะคะ และไม่ลืมที่จะดูแลร่างกายและจิตใจตนเองให้มีสุขภาวะที่ดี โดยการกินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอและผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ อันนี้สำคัญมากเพราะเราต้องการแม่ลูกที่แข็งแรง

น้ำหนักตัว ถ้าแม่น้ำหนักตัวขึ้นมากไปในระหว่างตั้งครรภ์จะมีอีกหลายเรื่องตามมา ไม่ว่าจะเป็น ตัวใหญ่ทั้งแม่และลูก ปัญหาโรคเบาหวานและอื่นๆ ก็จ่อเข้าคิวกันเลยทีเดียว แล้วที่คุณแม่ไม่ชอบมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องลดน้ำหนักหลังคลอด เพราะลดยากเชียวล่ะ น้ำหนักตัวเหมาะสมสำหรับการคลอดเอง

คุณแม่ควรให้น้ำหนักขึ้นประมาณ 10-12 กิโลกรัมตลอดการตั้งครรภ์ หรือ 1-5-5 คือ 3 เดือนแรกอาจไม่ขึ้นเลยหรือขึ้นสัก 1 กิโลกรัม 3 เดือนต่อๆ มาก็รอบละ 5 กิโลกรัมค่ะ

ฝึกการหายใจ ฝึกควบคุมจิตใจโดยการฝึกหายใจแบบโยคะนั่นเองค่ะ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประโยชน์เพราะช่วยให้เรามีสติอยู่เสมอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ไม่ได้ฝึกจะทำให้คลอดลำบากนะคะ ยังมีอีกหลายตัวประกอบที่จะมาช่วยกันได้ค่ะ การหายใจที่ถูกต้อง ก็คือหายใจลึกๆ ยาวๆ ไม่กลั้นหายใจ ไม่หายใจถี่ๆ เอาแบบพอดีๆ ถ้าแม่ไม่เหนื่อลูกจะได้ออกซิเจนอย่างเต็มที่

เตรียมตัวเข้าห้องคลอด พร้อมรับสถานการณ์ต่อไปนี้ การคลอดต้องมีการเจ็บคลอดแต่ไม่เจ็บถึงตาย การเจ็บบอกให้รู้ว่าการคลอดกำลังดำเนินไป และความทนได้แต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ถ้าเป็นไปได้ลองพยายามที่จะไม่ใช้ยาเร่งคลอด ไม่ใช้ยาแก้ปวด ความกลัว ความกังวล

ความตกใจจะทำให้ความรู้สึกเจ็บมากขึ้นและลดลงได้ด้วยความเข้าใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น ที่จริงแล้วในการคลอดไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้น้ำเกลือระหว่างรอ ไม่โกนขน ไม่สวนอุจจาระทุกคนกับทุกครั้งที่คลอด มีเพียงบางรายที่ต้องเตรียมแบบทำผ่าตัด เพราะส่วนใหญ่จะสามารถคลอดได้เอง แต่ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับแพทย์และโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ด้วยค่ะ อาจพิจารณาตามความเหมาะสมหรือปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เอาเป็นว่าข้อแนะนำทั้งหมดนี้คงต้องปรับให้สอดคล้อง และควรบอกความต้องการพร้อมวางแผนการคลอดร่วมกับแพทย์ผู้ดูแลจะดีที่สุดค่ะ

บรรเทาความเครียดในห้องคลอดแบบง่ายๆ การเดิน-เปลี่ยนท่าบ่อยๆ ลุก-นั่ง ขยับตัว การสัมผัส เสียงเพลง กลิ่นหอม ความสงบ การนวด การประคบด้วยน้ำร้อน ก็ช่วยบรรเทาเจ็บได้ด้วย คนอยู่ใกล้ๆ และกำลังใจเป็นยาแก้ปวดลดกังวลได้เป็นอย่างดีทั้งฝรั่งทั้งไทยทำวิจัยมานักต่อนักแล้วว่า ช่วยลดการใช้ยาและลดการคลอดด้วยเครื่องหลายสิบเปอร์เซ็นต์

สำหรับครั้งนี้พอหมอปากหอมคอกับคำแนะนำในการช่วยให้คลอดง่าย แต่ทั้งหมดนี้ที่อยากฝากไว้คือคงต้องเริ่มต้นจากการดูแลสุขภาพของตัวเอง มุ่งมั่นตั้งใจพร้อมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ตัวเองด้วยค่ะ

[ ที่มา.. นิตยสารดวงใจพ่อแม่ Vol.12 No.135 January]

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ในบล็อกน้องแก้มหอม

แม่ลูกผูกพัน

แก้มหอม รรรมิลรรภ์

หนึ่งเดียวในโลก หากจะถามว่า ทำไมตั้งชื่อลูกแบบนี้ ก็ไม่มีคำตอบ ถามต่อว่า ชื่อนี้แปลว่าอะไร ผมก็ไม่ได้สนใจคำแปล รู้แต่ว่าชื่อนี้ดี

โรคในเด็กเล็ก

เด็กแพ้โปรตีนจากนมวัว

น่าเสียดายที่ช่วงแรกคลอดของพี่เปรมนั้น ในระหว่างสองเดือนแรกไม่ได้กินนมแม่จริงจัง แต่สำหรับน้องแก้มหอมเอง

แม่ลูกผูกพัน

น้องสาวชื่อ แก้มหอม

หลังจากที่คุณแม่คลอดพี่เปรมมาก่อนกำหนดเพราะท้องแค่ 7-8 เดือน

พัฒนาการลูกรัก

การศึกษาไม่ทำให้คนฉลาดขึ้น

อ่านข่าวเรื่อง อากงส่ง sms ก็สะเทือนใจ ยิ่งหนักเข้าไปอีกก็คงเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ใช้คนตายเป็นเครื่องมือเพื่อหวังประโยชน์ไม่ว่าจะด้วยทางใด

พัฒนาการลูกรัก

วิธีเลี้ยงลูกให้ E.Q. สูง

เผย 12 วิธีเลี้ยงลูกให้ดี เพิ่ม E.Q. ให้สูง วันนี้เราจะมาคุยกันด้วยเรื่องที่ต่อเดือนที่แล้วว่าจะเลี้ยงลูกให้มี E.Q. สูงได้อย่างไร

พัฒนาการลูกรัก

สัมผัสลูกน้อยถูกวิธี ช่วยให้ฉลาดพัฒนาการดี

การทำสปาอาจช่วยให้ผู้ใหญ่อย่างพวกเรารู้สึกรีแล็กซ์ และสบายเนื้อสบายตัว แต่สำหรับ เด็กทารกแล้ว